29 เม.ย. 2552

30 วัน กวีสรรเสริญ‏

30 วัน กวีสรรเสริญ‏

ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2008 ฉันจะร่ายกวีบทใหม่ ถวายแด่พระเจ้าที่รักของฉัน
เพื่ออวดเรื่องกางเขนของพระองค์ เพื่อเยินยอพระเกียรติของพระองค์

วันที่ 1/11/2008 (เสาร์) : ลุมพินีวิลล์ รามคำแหง 44…คอนโดเพื่อน
เขียนกลอนนี้ขึ้นมาขณะดื่มด่ำกับพระคำพระเจ้า และระลึกถึงสิ่งที่ อ.อานุภาพ วิชิตนันท์ ได้เทศนาในค่ายคริสตจักรนิมิตใหม่ ที่พัทยา ว่าด้วยพระมรรคาของพระเจ้า ฉันจึงอธิษฐานขอให้พระองค์ทรงนำมรรคาของฉัน
[สดด.25:4] ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงกระทำให้ข้าพระองค์รู้จักพระมรรคาของพระองค์ ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าพระองค์
 ขอทรงนำมรรคาข้าพระองค์
ข้าแต่พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงโปรดนำมรรคาข้าวันนี้
โปรดให้ข้าอิ่มบริบูรณ์ด้วยของดี ให้ไปดีมาดีในแผ่นดิน
ทุกย่างก้าวรับบัญชาจากพระองค์ ทุกย่างก้าวถ่อมใจลงรับใช้พระคริสต์
ทุกย่างก้าวยอมจำนนสุดวิญญาณจิต ทุกย่างก้าวถวายอุทิศแด่พระองค์

วันที่ 2/11/2008 (อาทิตย์) : คจ.นิมิตใหม่…
พักสงบจิตใจอยู่ในนิเวศของพระเจ้า นมัสการร่วมกับพี่น้องในคริสตจักร และแล้วก็มีผู้เชื่อใหม่ก้าวขึ้นบนเวทีเพื่อขอรับมหาสนิทร่วมกับพวกเรา
[ลก.22:19-20] พระองค์ทรงหยิบขนมปัง โมทนาพระคุณ แล้วหักส่งให้แก่เขาทั้งหลาย ตรัสว่า "นี่เป็นกายของเรา ซึ่งได้ให้สำหรับท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา" เมื่อรับประทานแล้ว จึงทรงหยิบถ้วยกระทำเหมือนกันตรัสว่า "ถ้วยนี้ซึ่งเทออกเพื่อท่านทั้งหลายเป็นคำสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา”
 สู่มหาสนิท
ข้าขอติดตามองค์ผู้เป็นเจ้า โดยรับเอาขนมปังและน้ำองุ่น
ข้าขอเข้าสู่ครอบครัวอันอบอุ่น รับพระคุณแห่งชีวิตนิรันดร์
ขอแทรกตัวอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ ขอยืนหยัดอยู่ในอุ้งพระกร
ขอคุกเข่าวันทากราบวิงวอน ขอรับการตีสอนจากพระองค์
ขอมีส่วนในงานพันธกิจ ขออุทิศทั้งสิ้นน้อมถวาย
ขอจำนนแด่พระองค์ทั้งใจกาย ตราบชีพวายไม่หายห่างจากพระองค์
ขอสรรเสริญพระองค์ชั่วชีวิต ติดสนิทกระทำตามพระประสงค์
ขอรอคอยพระเจ้าด้วยสัตย์ซื่อตรง ขอมั่นคงดำรงค์รักพระองค์นิรันดร์
วันที่ 3/11/2008 (จันทร์) : บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด
พี่บุญลวีส่งหนังสือ “จงรอคอยพระเจ้า” มาให้อ่าน อ่านแล้วซาบซึ้งตรึงใจยิ่งนัก และในขณะเดียวกันก็ต้องรีบกลับใจ ที่ผ่านมาฉันรีบร้อน และไม่นิ่งสงบรอคอยพระเจ้า…ฉันต้องขอรับพระคุณจากพระเจ้า ขอทรงโปรดให้ฉันนั้นจดจ่อและคอยท่าพระองค์แต่เพียงองค์เดียว
[สดด.62:1] จิตใจของข้าพเจ้าสงบคอยท่าพระเจ้าแต่องค์เดียว ความรอดของข้าพเจ้ามาจากพระองค์
[สดด.62:5] จิตใจของข้าพเจ้าสงบคอยท่าพระเจ้าแต่องค์เดียว เพราะความหวังของข้าพเจ้ามาจากพระองค์
 จงสงบคอยท่าพระเจ้าแต่องค์เดียว
จิตใจของข้าเอ๋ย จงสงบคอยท่าพระเจ้าแต่องค์เดียว
จิตวิญญาณของข้าเอ๋ย จงนิ่งรอคอยพระเจ้าแต่องค์เดียว
สองมือของข้าเอ๋ย จงยกชูขึ้นสรรเสริญพระเจ้าแต่องค์เดียว
สองเท้าของข้าเอ๋ย จงเต้นโลดสรรเสริญพระเจ้าแต่องค์เดียว
สองหูของข้าเอ๋ย จงสงบต่อพระสุรเสียงของพระเจ้าแต่องค์เดียว
สองตาของข้าเอ๋ย จงพินิจพิจารณาความงามของพระเจ้าแต่องค์เดียว
ปากของข้าเอ๋ย จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่พระเจ้าแต่องค์เดียว
ร่างกายของข้าเอ๋ย จงอุทิศเพื่อพันธกิจแด่พระเจ้าแต่องค์เดียว
ชีวิตของข้าเอ๋ย จงดำรงอยู่เพื่อนมัสการพระเจ้าแต่องค์เดียว
ข้าพร้อมก้าวสู่หลักชัยในพระคริสต์ พร้อมทุ่มเทอุทิศแด่พระเจ้า
พร้อมเป็นเกลือเป็นความสว่างแก่โลกเรา พร้อมคุกเข่า พร้อมก้าวเดิน พร้อมหยัดยืน
ข้ายำเกรงพระเจ้าองค์อุปถัมภ์ ทรงชี้นำ ทรงเสริมกำลังให้กับข้า
ข้าซ่อนตัวอยู่ใต้ปีกพระบิดา ข้าคอยท่าพระเจ้าแต่องค์เดียว



วันที่ 4/11/2008 (อังคาร) : บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด…เวลาเที่ยงกว่าๆ ขณะฝนตก
ฉักรักสายฝน ฉันชะโงกหน้าไปทักทายสายฝน พระเมตตาหลั่งมาดุจฝนอันชี่นใจ…พี่บุญลวีโทรมาทักทาย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของน้องสาว พร้อมทั้งเล่าสิ่งละอันพันละน้อยสู่กันฟัง…ขำๆ กันไป
[ฮชย.6:3] ให้เรารู้จัก ให้เราพยายามรู้จักพระเจ้า การที่พระองค์เสด็จออกก็แน่นอนเหมือนอรุณ พระองค์จะเสด็จมาหาเราอย่างห่าฝน ดังฝนชุกปลายฤดูที่รดพื้นแผ่นดิน"
 ฝนตกชุกปลายฤดู
สายฝนหล่น โปรยปราย ดุจสายรัก
ชุ่มฉ่ำนัก พระเมตตา หลั่งไหล
พระคุณพระเจ้า รินรดมา แสนชื่นใจ
ฝนตกชุก ฤดูปลาย มาเยี่ยมเยียน

พระพรพระเจ้า เทมา ดังห่าฝน
หลั่งไหลสู่วิสุทธิชน ครบถ้วนหน้า
พระเจ้ารัก เราทุกคน ดุจแก้วตา
ประทานชีวา ประทานพระคุณ ประทานพระพร

ฉันหลงรัก สายฝน ของพระเจ้า เตือนให้เฝ้า นับพระพร อันอุดม
เตือนให้นึก ถึงความ สนิทสนม เตือนให้ประพฤติ เหมาะสม เป็นลูกพระองค์

วันที่ 5/11/2008 (พุธ) : คอนโดลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…เวลา 4.30 น.
พระเจ้าทรงรักฉันมาก มากเกินความเข้าใจของฉัน จนทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันรักพระองค์น้อยเกินไป ฉันจึงอธิษฐานขอให้ฉันได้รักพระองค์มากยิ่งขึ้น ลึกซึ้งขึ้นทุกขณะ และขอพระหัตถ์ของพระองค์อยู่กับฉันตลอดไป
[1คร.8:3] แต่ถ้าผู้ใดรักพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงรู้จักผู้นั้น
 ข้าขอรักพระองค์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
โปรดนำข้าไปถึงซึ่งพระคำ โปรดให้ข้าดื่มด่ำในความหมาย
โปรดเบิกดวงตาข้า วิญญาณใจ ให้ข้าได้สัมผัสพระทัยอันละมุน
โปรดให้ข้ารักพระองค์ลึกซึ้งขึ้น ให้ชุ่มชื่น เอ่อล้น อิ่มเอมรัก
โปรดให้ข้าได้พบประสบพระพักตร์ ให้ประจักษ์รักจับใจในพระองค์

รักพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่ไม่สิ้นสุด มหาสมุทรมิอาจเทียบรักนั้นได้
พระดำริสุดประเสริฐไพศาลใหญ่ มากยิ่งกว่าเม็ดทรายในนที
โอ้ พระองค์ โปรดเสด็จมาใกล้ข้า โปรดยื่นพระหัตถามาเหนือข้า
โปรดโอบกอดข้าไว้ในพระอุรา โปรดรักษาข้ามิให้เจ็บใจกาย

วันที่ 6/11/2008 (พฤหัสบดี) : คอนโดลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…เวลา 6.20 น.
จิตใจของฉันยังคงดื่มด่ำกับความรักของพระเจ้าไม่รู้จบ นับวันก็ยิ่งลึกซึ้งและอัศจรรย์ใจมากขึ้น พระองค์ทรงสละพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อคนบาปอย่างฉัน พระเยซูทรงทนทุกข์โดยปราศจากความผิด พระเยซูทรงยอมพลีพระชนม์เป็นผู้ไถ่บนไม้กางเขนเพื่อคนที่ไม่คู่ควรอย่างฉัน พระเจ้าทรงให้ชีวิตนิรันดร์แก่ฉัน ทรงประทานพระพรมากมายแก่ฉัน ซึ่งฉันคงนับได้ไม่หมด หากจะนับก็มากกว่าเม็ดทราย มากกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า มากกว่าผงคลีดิน มากกว่าอะไรทั้งสิ้นในโลกนี้มารวมกัน…ฉันคงไม่สามารถพรรณนาความดื่มด่ำและความอัศจรรย์ใจได้ทั้งหมด แต่ฉันก็อัศจรรย์ใจในความรักของพระเจ้าอยู่นั่นเอง
[อสย.43:4] เพราะว่าเจ้าประเสริฐในสายตาของเรา และได้รับเกียรติและเรารักเจ้า เราจึงให้คนเพื่อแลกกับเจ้า ให้ชนชาติทั้งหลายเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า
 รักอัศจรรย์
รักพระเจ้าสว่างจ้าในดวงจิต รักทรงฤทธิ์อัศจรรย์ชวนฉงน
รักกระจ่างฉายแสงไปทั่วสากล เสรีชนอิ่มเอมใจในรักพระองค์
รักพระองค์มากล้นมิอาจวัด สุดชี้ชัดความงดงาม ความยิ่งใหญ่
เป็นความรักสนิทสนมสุขสมใจ เป็นดวงไฟในดวงใจ รักนิรันดร์
ทรงปิติยินดีในตัวเรา ทรงปรารถนาให้เราสนิทสนม
ทรงเฝ้ามองดูเราด้วยชื่นชม ทรงสะสมพระพรไว้มอบให้เรา




วันที่ 7/11/2008 (ศุกร์) : คอนโดลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…เวลา 5.50 น.
อันความรักและมหิทธิฤทธิ์ขององค์จอมกษัตริย์นั้นยิ่งใหญ่ตระการตา ชวนให้หลงไหลและตื่นตะลึงอยู่ร่ำไป ฉันเองก็ตกหลุมรักพระคริสต์จนถอนตัวไม่ขึ้น ฉันตื่นตะลึงในความงาม การทรงสร้าง และความรักของพระองค์ ฉันรักพระองค์ ในขณะเดียวกันก็อดที่จะยำเกรงพระองค์ไม่ได้ พระองค์เป็นทุกสิ่งในชีวิตของฉัน
[สดด.33:8] ให้แผ่นดินโลกทั้งสิ้นยำเกรงพระเจ้า ให้บรรดาชาวพิภพทั้งปวงยืนตะลึงพรึงเพริดต่อพระองค์
 ตื่นตะลึง
ตื่นตะลึงยิ่งนักรักพระคริสต์ สละชีวิต เป็นผู้ไถ่ บนไม้กางเขน
พระทรงฤทธิ์ปลดเราให้พ้นบาปเวร รักชัดเจน รักยอมพลี เราเป็นหนี้พระองค์

ตื่นตะลึงพรึงเพริศการทรงสร้าง ทรงจัดวาง ทรงตรัสสั่ง ทรงสร้างสรรค์
พระทรงสร้างสรรพสิ่งสารพัน เอนกอนันต์ทรงจัดเตรียมมอบแด่เรา
ทรงสร้างฟ้า สวรรค์ และแผ่นดิน สร้างทรัพย์สิน บรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหว
ทรงสร้างน้ำ สร้างป่าเขา ลำเนาไพร ดาวน้อยใหญ่ สุริยัน และจันทรา

ตื่นตะลึงการทรงสร้างวิเศษสุด สร้างมนุษย์ขึ้นมาตามพระฉาย
ทรงกำหนด ทรงสร้างหญิงและชาย ทรงสร้างกาย ทรงสร้างใจ สร้างชีวี
ทรงเลี้ยงดูให้มนุษย์นั้นเติบใหญ่ ทรงนำไปในมรรคาราบวิถี
ทรงห่วงใยทรงใส่ใจทุกวินาที ในฤดีตื่นตะลึงพรึงเพริศเอย










วันที่ 8/11/2008 (เสาร์) : คริสตจักรตราด ระหว่างการนมัสการในรายการค่ายเด็ก เวลา 18.45 น.
พระเจ้าประทานโอกาสให้ไปหนุนใจพี่ป๊อบเนื่องในโอกาสรับบัพติศมา เราสองพี่น้องนักเดินทางคือ พี่อิ๋วกับฉันก็เดินทางในเช้าวันเสาร์ ไปถึงที่เมืองตราดในช่วงบ่าย เรามีช่วงเวลาแห่งการสามัคคีธรรมที่วิเศษ ทั้งตอนเย็นเรายังได้นมัสการร่วมกับเด็กๆ ในค่ายเด็ก ของคริสตจักรตราดอีกด้วย… ระหว่างการนมัสการ ฉันสัมผัสได้ถึงพระสิริอันบรรเจิดแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า สัมผัสในวิญญาณถึงความโอ่อ่าตระการตาของพระราชาผู้ทรงพระสิริเลิศ
[สดด.72:19] สาธุการแด่พระนามรุ่งโรจน์ของพระองค์เป็นนิตย์ ขอพระสิริของพระองค์เต็มโลก อาเมน และ อาเมน
 แสงพระสิริ
พระสิริพระเจ้างามเจิดจรัส กระจ่างชัดแพรวพราวสกาวแสง
งามหยดย้อยพริ้งพรายประกายสำแดง ตะลึงแลกระแสแสงละมุนละไม
แสงใดใดไหนจะเทียบเปรียบพระเจ้า แสงนพเก้ามณีจินดาหาเทียบไม่
แสงสุรีย์แสงจันทราผ่องอำไพ ไฉนเลยจะเทียบได้แสงพระองค์
พระสิริส่องแสงสู่โลกหล้า แสงฤทธาแวววาวตาสูงค่ายิ่ง
แสงบริสุทธิ์เปล่งรัศมีสู่สรรพสิ่ง แสงสัตย์จริง แสงสง่าคือบิดาเรา

วันที่ 9/11/2008 (อาทิตย์) : คริสตจักรตราด ระหว่างการนมัสการวันอาทิตย์ เวลา 10.39 น.
ในช่วงของการนมัสการร่วมกับพี่น้องที่ คริสตจักรตราด พระวิญญาณประเสริฐสถิตอยู่ท่ามกลางพวกเรา ความรักของพระองค์โอบล้อมเราไว้ ทุกหัวใจได้สัมผัสถึงน้ำพระทัยซาบซึ้งอิ่มเอม และสัมผัสถึงอ้อมพระกรแห่งรักจากพระองค์… อ้อมกอดของพระองค์เป็นเช่นไรนะ หัวใจของฉันเฝ้าไถ่ถามและค้นหา เมื่อร้องเรียก พระองค์ก็ทรงประทานให้ อ้อมกอดรักแห่งพระบิดา องค์พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของเรา! อ้อมกอดแห่งรักของพระองค์จะติดตามเราไปตลอดคืนวันชีวิตของเรา จะนำพาเราผ่านหุบเขาเงามัจจุราช นำเราไปสู่ทุ่งหญ้าเขียวสดงดงาม
[ฉธบ.32:10] พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่เปลี่ยวเปล่ามีแต่เสียงเห่าหอน พระองค์ทรงโอบล้อมเขาไว้ และทรงดูแลเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์
 อ้อมกอดรักพระเจ้า
อ้อมเอยอ้อมกอดรัก อบอุ่น
อ้อมไอละมุนละไมรัก หลงไหล
อ้อมพระทรวงซาบซึ้งรัก ปักใจ
อ้อมพระทัยบริสุทธิ์ งดงาม
อิ่มเอมรักอ่อนหวาน อบอวล
กรุ่นกลิ่นนวลหอมซึ้ง ซาบซ่าน
อ้อมกอดรักของพระเจ้า ชื่นบาน
เป็นพระพรในวิญญาณ รื่นรมย์เอย
วันที่ 10/11/2008 (จันทร์) : บนรถตู้ ขณะเดินทางไปทำงาน รถติดอยู่หน้าจุฬา…เวลา 8.15 น.
บ่อยครั้งที่ฉันดื้อดึงและอวดดี บ่อยครั้งที่ฉันยอมวางมือกับบางสิ่งบางอย่างเพื่อมอบไว้ในการทรงนำของพระเจ้า แต่ฉันยังไม่ได้วางใจอย่างจริงจังเต็มร้อย ฉันขอพระเจ้าที่ฉันจะถ่อมใจลงทั้งหมดทั้งสิ้น วางมือและวางใจพระองค์อย่างสิ้นสุดกำลังความคิด สุดวิญญาณใจ
[ยก.4:10] ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะทรงยกชูท่านขึ้น
 ถ่อมใจลง
ถ่อมใจลงต่อองค์ผู้เป็นเจ้า ถ่อมใจเรารับเอาการตีสอน
ถ่อมใจรักน้อมความคิดสู่พระบิดร ถ่อมใจลงกราบวิงวอนขอถ่อมใจ
ให้ลูกน้อมนำความคิดทุกประการ มอบแผนการให้พระองค์ทรงนำให้
ยอมจำนนทั้งความคิดและจิตใจ เพื่อเป็นตามน้ำพระทัยของพระองค์

วันที่ 11/11/2008 (อังคาร) : คอนโดลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…เวลา 5.15 น.
เมื่อวานตอนเย็นขณะเดินเข้าคอนโด ฉันกลับรู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด แม้จะเป็นเพียงความเหงาชั่วขณะที่ได้คงอยู่เพียงหน่อยหนึ่ง แต่นั่นกลับทำให้ฉันนำมาคิดใคร่ครวญอย่างหนัก ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงโปรดให้เรามีอารมณ์ พระเยซูเองก็ทรงมีอารมณ์รัก โกรธ เสียพระทัย และพระบิดาก็ทรงสร้างเรามาให้มีอารมณ์เช่นนั้น พอความเหงาแล่นเข้ามาในความรู้สึก ฉันก็ต้องรีบค้นหาว่าพระเจ้ากำลังจะบอกอะไร เนื่องจากว่าฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยเหงา มีเพื่อนฝูงมาก มีเรื่องให้ทำตลอด จนไม่มีเวลาเหงา และที่สำคัญฉันมีพระบิดาที่รัก ฉันมีพระเยซูเป็นพี่ชาย เป็นสหายเลิศของฉัน…แต่เมื่อความเหงาเกิดขึ้น ฉันก็ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันรู้สึกเช่นนั้น เพื่อที่ว่าฉันจะได้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ในขณะเดียวกัน ทำให้ฉันต้องวางความรู้สึกนั้นไว้ที่พระเจ้า ฉันต้องพึ่งพระวจนะของพระองค์ในทุกช่วงเวลาของความคิด ทุกความรู้สึก
[มธ.4:4] … มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า
 บำรุงชีวิตด้วยพระวจนะ
ยามใดหัวใจเหงาหรือเศร้าจิต ยามใดที่ครุ่นคิดด้วยบอบช้ำ
ยามใดที่เป็นทุกข์หนักสุดระกำ ยามนั้นพระคำพระเจ้าเฝ้าประโลม
ยามใดที่ท้อแท้หรือสิ้นหวัง ยามใดที่หมดกำลังจะสู้ใหม่
ยามใดที่ชีวิตมีแต่แพ้พ่าย ยามนั้นไซร้พึ่งพระคำนำก้าวเดิน
ยามใดที่ผิดพลาดหรือสูญเสีย ยามใดที่อ่อนเปลี้ยหรือหมดหวัง
ยามใดที่หมดสิ้นแทบทุกอย่าง ยามนั้นวางภาระพึ่งพระคำ
ยามใดที่ชีวีสุขหรรษา ยามใดที่ปรีดาสุขสุขี
ยามใดที่รื่นรมย์สมฤดี ยามนั้นที่พระคำนำชูใจ


อย่าได้ขาดการดื่มด่ำพระวจนะ อย่าได้ละการตีสอนจากพระเจ้า
อย่าได้ลืมท่องพระคำทุกค่ำเช้า อย่าได้ลืมน้อมนำเอามาใส่ใจ
อย่าได้ลืมกระทำตามพระบัญญัติ อย่าได้ลืมปฏิบัติเปลี่ยนแปลงใหม่
อย่าได้ลืมจดจำพระคำตลอดไป อย่าได้ลืมพระบัญญัติทั้งหลายของพระองค์

วันที่ 12/11/2008 (พุธ) : คอนโดลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…เวลา 4.25 น.
อรุณรุ่งเบิกฟ้า นกกาแว่วเสียง ฉันพบพระจันทร์โตเต็มดวง…วันนี้เป็นวันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำคะนองเต็มตลิ่ง เป็นวันลอยกระทงของชาวไทย ฉันชอบประเพณีอันดีงามของการลอยกระทง แต่ปีนี้ฉันไม่คิดจะลอยกระทง…ฉันตะลึงกับดวงจันทร์กลมโตที่ส่องแสง พลันฉันก็ระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงสร้างฟ้า สวรรค์ แผ่นดินโลก และสรรพสิ่งที่มีอยู่ในนั้น เช้านี้ฉันจึงพลิกไปที่ปฐมกาลบทที่ 1 อีกครั้ง และอัศจรรย์กับการทรงสร้างของพระบิดาอีกครั้งเช่นกัน
[ปฐก.1:16] พระเจ้าได้ทรงสร้างดวงสว่างขนาดใหญ่ไว้สองดวง ให้ดวงใหญ่ครองวัน ดวงเล็กครองคืน พระองค์ทรงสร้างดวงดาวต่างๆ ด้วย
 ดวงจันทร์
ดวงจันทร์กลมเปล่งรัศมีสีนวล ชวนให้หวลระลึกถึงพระผู้สร้าง
ทรงดำริทรงดำรัสทรงจัดวาง สรรพสิ่งทุกอย่างปรากฎงาม
ทรงสร้างโลกภายในหกวัน ทรงหยุดพักการงานในวันที่เจ็ด
เพียงตรัสสั่งสรรพสิ่งก็สำเร็จ ทรงสร้างเสร็จ ตรัสว่าดี พอพระทัย
ทรงสร้างเธอและฉันตามฉายา ให้ครอบครองฝูงปลาสัตว์น้อยใหญ่
ให้ดูแลธรรมชาติทรงสร้างไว้ ให้เราได้กรรมสิทธิ์โดยชอบธรรม
เราจึงควรเอาใจใส่โลกใบนี้ ถวายองค์ภูมีตามรับสั่ง
ควรรักษาสรรพสิ่งไว้สุดกำลัง เพื่อรุ่นหลังได้ครอบครอง สรรเสริญพระนาม

วันที่ 13/11/2008 (พฤหัสบดี) : คอนโดลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…เวลา 5.35 น.
ลมหนาวโชยแผ่วเบามาสัมผัสร่างกายและจิตใจ ชวนให้ระลึกถึงองค์พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ เราไม่เคยเห็นพระเจ้า แต่เราสามารถสัมผัสรักจากพระองค์ สัมผัสการทรงสถิตของพระองค์ เห็นสิ่งอัศจรรย์ทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างได้ ลมละมุนที่พัดมาจึงเป็นเหมือนการสัมผัสอีกแบบหนึ่งจากองค์บิดา ทรงปรารถนาที่จะชิดใกล้และอวยพรเรา และทำให้เราตื่นตะลึงในการทรงสร้างอันแสนวิเศษของพระองค์อีกครั้ง ทรงสร้างสรรพสิ่ง ทรงกำหนดฤดูกาล ทรงให้ทุกสิ่งมีวาระของมัน และมนุษย์เราก็เช่นเดียวกัน พระองค์ทรงประสงค์ให้เราเป็นลูกที่เกิดผลตามฤดูกาลของเรา ให้เราเกิดผลในทุกสิ่งที่เรากระทำ ในทุกกิจกรรมของเรา ในทุกการงานของเรา ในทุกการรับใช้ของเรา ในทุกวาระของเรา ในทุกฤดูกาลของเรา [สดด.1:3] เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น
[ปญจ.3:1] มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวารสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์
[ปญจ.3:11] พระองค์ทรงกระทำให้สรรพสิ่งงดงามตามฤดูกาลของมัน พระองค์ทรงบรรจุนิรันดรกาลไว้ในจิตใจของมนุษย์ แต่มนุษย์ยังมองไม่เห็นว่า พระเจ้าทรงกระทำอะไรไว้ตั้งแต่ปฐมกาลจนกาลสุดปลาย
 เหมันต์หรรษา
โอ้เหมันต์หันมาสู่ฟ้าไทย ฤดูใหม่เวียนผ่านมาอีกคราหนึ่ง
ฤดูใหม่วาระใหม่งามตราตรึง ตื่นตะลึงเหมันตฤดู
มีวาระสำหรับสรรพสิ่ง ปรากฎจริง ฤดูกาล หรรษา
ทุกฤดูอยู่ใต้หัตถ์องค์บิดา งามสง่าเกิดผลงามตามฤดู

ทุกฤดูเปี่ยมฤดีเปรมปรีด์สุข เราสนุกสุขสันต์หรรษา
ทุกฤดูเป็นพระพรจากบิดา ประชากรทั่วโลกาสรรเสริญพระนาม

วันที่ 14/11/2008 (ศุกร์) : คอนโดลุมพินีเพลส ประดิพัทธิ์…เวลา 6.04 น.
เช้านี้เฝ้าเดี่ยวด้วยหนังสือ “อิ่มเอมรักจากพระเจ้า” โดย รูธ ไมเยอร์ ในหัวข้อ “พระองค์เป็นยอดปรารถนา”…ใช่แล้ว พระองค์ทรงยิ่งใหญ่ สัตย์ซื่อ เปี่ยมด้วยรัก พระองค์ทรงสมบูรณ์ดีพร้อมทุกประการ น้ำพระทัยของพระองค์ก็ล้ำลึกเกินความเข้าใจของเรา พระหัตถกิจของพระองค์ก็อัศจรรย์สุดล้ำพรรณนา เราจึงกลั่นหัวใจ เทใจถวายแด่พระองค์…พระองค์เป็นสุดยอดปรารถนาทั้งหมดทั้งสิ้นในชีวิตของเรา
[สดด.73:25] นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์มิมีผู้ใดในฟ้าสวรรค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาใดใดในโลก
 พระองค์เป็นสุดยอดปรารถนา
พระองค์เป็นสุดยอดปรารถนา เป็นราชาผู้ดีเลิศ น่าเทิดทูน
ความรักของพระองค์เต็มสมบูรณ์ มิสิ้นสูญ อัศจรรย์ ประเสริฐจริง
ข้าตกหลุมรักองค์พระเยซู พินิจดูความงามเลิศยิ่งใหญ่
ทรงล้ำเลิศสูงค่ากว่าสิ่งใด ข้าเทใจ ขออยู่ในพระทัยพระองค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น